แนวข้อสอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1.ในการใช้กฎหมายนั้นจะต้องในบรรดากรณี ซึ่งต้องด้วยบทบัญญัติใดๆ แห่งกฎหมายตามตัวอักษรหรือตามความมุ่งหมายของบัญญัตินั้นๆ แต่หากในกรณีที่ไม่มีบทกำหนดที่จะยกมาปรับแก่คดีได้ เพื่อประกอบการพิจารณาและวินิจฉัยให้คดีนั้นเสร็จไปได้ จะต้องนำหลักการใดมาใช้เป็นลำดับแรก
ก. ให้วินิจฉัยนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น
ข. ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง
ค. ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป
ง. นำหลักการใดมาใช้ก่อนหลังก็ได้
คำตอบ : ข้อ ก. เพราะเมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงยิ่ง และถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นก็ไม่มีด้วยให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป (ตาม ป. พ.พ. มาตรา 4)
2. ในกรณีที่บุคคลใดได้พิมพ์ลายนิ้วมือ แทนการลงลายมือชื่อ จะต้องทำอย่างไรจึงจะทำอย่างไรจึงจะทำให้การพิมพ์ลายนิ้วมือนั้นใช้แทนการละลายมือชื่อในเอกสารได้
ก. มีพยานลงลายมือชื่อรับเองหนึ่งคน
ข. มีพยานลงลายมือชื่อรับเองสองคน
ค.ไม่จำเป็นต้องมีพยานแก้ใช้แทน ลายมือชื่อได้
ง. นำหนังสือนั้นไปให้นายอำเภอรับรอง
คำตอบ : ข้อ ข. ลายพิมพ์นิ้วมือ แกงใด ตราประทับ หรือเครื่องหมายอื่นทำนองเช่น ว่านั้น ที่ทำลงในเอกสารแทนการลงลายมือชื่อ หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองไว้แล้วสองคนแล้วให้ถือเสมอกับลงลายมือชื่อ (ตาม ป.พ.พ. มาตรา 9)
3. บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์ และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุเท่าใด
ก. อายุ 17 ปี ข. อายุ 18 ปี
ค.อายุ 19 ปี ง. อายุ 20 ปี
คำตอบ : ข้อ ง. บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์ ปละบรรลุนิติภาวะ เมื่อมีอายุ 20 ปีบนิบูรณ์ แต่อาจบรรลุนิติภาวะได้ด้วยการสมรส
4. หากผู้เยาว์ทำนิติกรรม โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผลของนิติกรรมนั้นเป็นเช่นไร
ก. เป็นโมฆะ
ข. เป็นโมฆียะ
ค. บังคับได้เฉพาะผู้เยาว์เท่านั้น
ง. นิติกรรมนั้นก็ยังสมบูรณ์
คำตอบ : ข้อ ข. เนื่องจากผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน การใดๆที่ผู้เยาว์ได้ทำลงปราศจากความยินยอมเช่นนั้นเป็นโมฆียะ เว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น (ตาม ป.พ.พ. มาตรา 21)
5. การกระทำใดที่ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อนก็สามารถทำได้
ก. นำทรัพย์สินไปลงทุน
ข. กู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงิน
ค. บริจาคเงิน ซึ่งพอควรแก่ฐานานุรูป
ง. ให้เช่าสังหาริมทรัพย์ในระยะเวลาเกิน 1 ปี
คำตอบ : ข้อ ค. เพราะ คนเสมือนไร้ความสามารถนั้นต้องได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์ก่อนแล้วจึงจะทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 34
6. นายจันทร์ ได้ไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และได้หายสาบสูญไปจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ ทายาทนายจันทร์จะร้องขอต่อศาลให้นายจันทร์เป็นคนสาบสูญ เพื่อที่จะได้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์มรดกได้ภายในระยะเท่าไหร่นับแต่นายจันทร์หายไป
ก. ภายในระยะเวลา หนึ่ง ปี
ข. ภายในระยะเวลา สอง ปี
ค. ภายในระยะเวลา สาม ปี
ง. ภายในระยะเวลา สี่ ปี
คำตอบ : ข้อ ข. ภายในระยะเวลา สอง ปี เพราะในกรณีที่เกิดสงคราม หรือพาหนะที่เดินทางอับปางหรือถูกทำร้ายหรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้น เป็นเหตุให้บุคคลนั้นอยู่ในอันตราย เช่นว่านั้นให้ลดระยะเวลาการร้องขอเหลือเพียงแค่ 2 ปี ( ตาม ป.พ.พ. มาตรา 61)
7. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช้นิติบุคคล
ก. ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ข. บริษัท จำกัด
ค. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข้อ ค. ห้างหุ้นส่วนสามัญ เพราะเป็นการตกลงร่วมลงทุนโดยมิได้จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจึงไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
8. นิติบุคคลจะแสดงเจตนาทำนิติกรรมได้โดยวิธีใด
ก. ทำโดยนิติบุคคลเอง
ข. ทำโดยตัวแทนของนิติบุคคล
ค. ทำโดยลูกจ้างของนิติบุคคล
ง. ถูกทุกข้อยกเว้น คำตอบข้อ ค
คำตอบ : ข้อ ข. ทำโดยตัวแทนของนิติบุคคล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 70 ความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงออกโดยผู้แทนนิติบุคคล
9. นายอาทิตย์ ซึ่งเป็นตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกอบกิจการ ภัตตาคาร ได้ทำสัญญาให้นายจันทร์ กู้ยืมเงินซึ่งนอกเหนือวัตถุประสงค์ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เมื่อนายอาทิตย์สัญญา นายจันทร์จะฟ้องให้ใครรับผิดชอบได้บ้าง
ก. ฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด
ข. ฟ้องนายอาทิตย์
ค. ฟ้องกรรมการของห้างหุ้นส่วน
ง. ฟ้องได้ทั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ,นายอาทิตย์ และกรรมการของห้างหุ้นส่วนจำกัด
คำตอบ : ข้อ ข. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 76 วรรคสอง ถ้าความเสียหายแก่บุคคลอื่นเกิดจากการกระทำที่ไม่อยู่ในขอบวัตถุประสงค์หรืออำนาจหน้าที่ของนิติบุคคล บรรดาบุคคลดังกล่าวตามวรรคหนึ่งที่ได้เห็นชอบให้กระทำการนั้นหรือได้เป็นผู้กระทำการดังกล่าว ต้องร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ได้รับความเสียหายนั้น
10. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์
ก. บ้าน
ข. โรงงาน
ค.ดิน ซึ่งเจ้าของที่ดินขุดเอาไปขาย
ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข้อ ค. เพราะดินเมื่อขุดขึ้นมาแล้ว ไม่ถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นสังหาริมทรัพย์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 139 อสังหาริมทรัพย์ หมายความว่า ที่ดินและทรัพย์อันติดกับมีลักษณะเป็นการถาวรหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นและหมายความรวมถึงทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับที่ดินหรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นด้วย
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติ
ว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖
ประชาธิปก ป.ร.
1. พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด
ก. 19 สิงหาคม 2476 ค. 19 กันยายน 2476
ข. 20 สิงหาคม 2476 ง. 20 กันยายน 2476
ตอบ ข. 20 สิงหาคม 2476
2. วินัยทหาร คือ
ก. การที่ทหารควรประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร
ข. การที่ทหารต้องประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร
ค. การที่ทหารควรประพฤติปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทหาร
ง. การที่ทหารต้องประพฤติปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทหาร
ตอบ ข. การที่ทหารต้องประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร
3. วินัยเป็นหลักสำคัญที่สุดสำหรับทหาร เพราะฉะนั้นทหารทุกคนจักต้องรักษาโดยเคร่งครัดอยู่เสมอ ผู้ใดฝ่าฝืนท่านให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิด อยู่ในมาตราใดของพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖
ก. มาตรา 3 ค. มาตรา 5
ข. มาตรา 4 ง. มาตรา 6
ตอบ ค. มาตรา 5
4. ข้อใดคือการกระทำผิดวินัยทหาร
ก. กล่าวคำเท็จ
ข. เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ
ค. ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ ตัวอย่างการกระทำผิดวินัยทหารมีดังต่อไปนี้
(๑) ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน
(๒) ไม่รักษาระเบียบการเคารพระหว่างผู้ใหญ่ผู้น้อย
(๓) ไม่รักษามรรยาทให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมของทหาร
(๔) ก่อให้แตกความสามัคคีในคณะทหาร
(๕) เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ
(๖) กล่าวคำเท็จ
(๗) ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร หรือประพฤติไม่สมควร
(๘) ไม่ตักเตือนสั่งสอน หรือลงทัณฑ์ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำผิดตามโทษานุโทษ
(๙) เสพเครื่องดองของเมาจนถึงเสียกิริยา
5. หมวด ๓ ในพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖ คือเรื่องใด
ก. บทเบ็ดเสร็จทั่วไป ค. วิธีร้องทุกข์
ข. ว่าด้วยวินัย ง. อำนาจลงทัณฑ
ตอบ ง. อำนาจลงทัณฑ
หมวด 1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
หมวด 2 ว่าด้วยวินัย
หมวด 3 อำนาจลงทัณฑ
หมวด 4 วิธีร้องทุกข์
6. ทัณฑ์ที่จะลงแก่ผู้กระทำผิดต่อวินัยทหารมีกี่สถาน
ก. 5 สถาน ค. 3 สถาน
ข. 4 สถาน ง. 6 สถาน
ตอบ ก. 5 สถาน
มาตรา ๘ ทัณฑ์ที่จะลงแก่ผู้กระทำผิดต่อวินัยทหารมี ๕ สถาน คือ
(๑) ภาคทัณฑ์
(๒) ทัณฑกรรม
(๓) กัก
(๔) ขัง
(๕) จำขัง
7. ข้อใด ไม่ใช่ โทษทางวินัยทหาร
ก. ภาคทัณฑ์ ค. จำขัง
ข. จำคุก ง. ทัณฑกรรม
ตอบ ง. ทัณฑกรรม
8. ผู้กระทำผิดมีความผิดอันควรต้องรับทัณฑ์สถานหนึ่งสถานใดดังกล่าวมาแล้ว แต่มีเหตุอันควรปราณี จึงเป็นแต่แสดงความผิดของผู้นั้นให้ปรากฏหรือให้ทำทัณฑ์บนไว้ คือความหมายของโทษตามข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์ ค. กัก
ค. ทัณฑกรรม ง. จำขัง
ตอบ ก. ภาคทัณฑ์
9. กระทำการสุขา การโยธา ฯลฯ เพิ่มจากหน้าที่ประจำซึ่งตนจะต้องปฏิบัติอยู่แล้ว หรือปรับให้อยู่เวรยาม นอกจากหน้าที่ประจำ คือความหมายของโทษตามข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์ ค. กัก
ข. ทัณฑกรรม ง. จำขัง
ตอบ ข. ทัณฑกรรม
10. กักตัวไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งตามแต่จะกำหนดให้ คือความหมายของโทษตามข้อใด
ก. กัก ค. ขัง
ข. ทัณฑกรรม ง. จำขัง
ตอบ ก. กัก
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )